/ / เมื่อมนุษย์ไม่จำเป็น… Humans Need Not Apply

เมื่อมนุษย์ไม่จำเป็น… Humans Need Not Apply

with No Comments


PIRANAT PINVISES แปลและเรียบเรียง

 

จากบทความ 5 ตำแหน่งงานเกี่ยวกับดีไซน์ที่จะสาบสูญไปในอนาคต !!?! การที่ตำแหน่งงานต่างๆนั้นจะเป็นที่ต้องการมากหรือน้อยนั้น ล้วนต้องมีเหตุปัจจัยที่อยู่เบื้องหลัง บ้างมาจากเหตุปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม หรือแม้แต่นวัตกรรม ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของเหตุปัจจัยนั้น ซึ่งมนุษย์ชาติของเราได้ผ่านจุดนี้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง (ดังเช่นในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ยุคข้อมูลข่าวสารและอีคอมเมิร์ส เป็นต้น) เรามาลองดูการวิเคราะห์ถึงมูลเหตุแห่งการปฏิวัติใหม่ (ไม่แน่ใจว่ามันควรจัดอยู่ในการปฏิวัติอุตสาหกรรม แรงงาน หรือเศรษฐกิจ เพราะดูแล้วมันน่าจะเชื่อมโยงกันอยู่ไม่น้อย)

 

[คลิปจาก: CGP Grey]

 

แต่ก่อน มนุษย์เรานั้นมีชีวิตรอดได้ด้วยการล่าและการสะสมอาหาร ซึ่งมนุษย์นั้นก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญา หรือฉลาดนั่นเอง (และก็ขี้เกียจด้วย) นั่นทำให้มนุษย์สร้างเครื่องมือต่างๆขึ้นมาเพื่อทุ่นแรงและทำให้งานต่างๆง่ายขึ้น ตั้งแต่เครื่องมืองานช่าง ไปจนถึงรถแทร็กเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากการที่ทุกๆคนจะต้องผลิตอาหาร (เพื่อยังชีพ) มาสู่การที่ไม่มีใครต้องหาอาหาร (เอง) อีกต่อไป แน่นอนว่าลักษณะเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในแวดวงเกษตรกรรม ในไม่กี่พันปีที่ผ่านมา มนุษย์เราได้สร้างเครื่องมือที่ช่วยในการทุ่นแรงสำหรับงานในทุกประเภท เครื่องมือเหล่านี้กลายมาเป็นกล้ามเนื้อจักรกล (mechanical muscle) ที่มีความแข็งแรงและไว้ใจได้มากกว่ากล้ามเนื้อมนุษย์ ทั้งยังไม่มีการเหนื่อยล้าอีกด้วย และนั้นก็เป็นสิ่งที่ดี การแทนที่แรงงานจากมนุษย์ด้วยเครื่องจักรนั้นทำให้มนุษย์เองได้มีเวลาเหลือที่จะพัฒนาความเชี่ยวชาญและนั่นจะทำให้ทุกๆคนได้รับประโยชน์ในท้ายที่สุด แม้แต่กับผู้ที่เป็นแรงงาน (ที่ถูกแทนที่) เองก็ตาม นั่นคือลักษณะการเติบโตของเศรษฐกิจและพัฒนาการของชีวิตความเป็นอยู่ของสังคมมนุษย์นั่นเอง

 

hnna-02

 

ส่วนคนบางกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญในการเขียนโปรแกรม (โปรแกรมเมอร์) และวิศวกร ที่ทำหน้าที่สร้างสมองของเครื่องจักรกล (mechanical minds) ก็จะคล้ายกับในยุคที่ “กล้ามเนื้อจักรกล” ได้เข้ามาแทนที่แรงงานคน และทำให้ความต้องการแรงงานลดน้อยลงในตลาดอย่างมีนัยยะสำคัญ นั่นหมายความว่า “สมองจักรกล” ก็จะทำให้กลุ่มแรงงานทางความคิด (brain labor) มีความจำเป็นน้อยลงด้วยเช่นกัน นี่คือการปฏิวัติทางเศรษฐกิจที่สำคัญทีเดียว ซึ่งเราอาจจะคิดว่ามนุษย์ชาติของเราได้ผ่านจุดจุดนี้มาแล้ว แต่นั่นก็ไม่ตรงกับความเป็นจริงเท่าใดนัก เพราะการปฏิวัติทางเศรษฐกิจในครั้งนี้จะแตกต่างออกไป

 

hnna-03

[ภาพ: ระบบแขนกลอัตโนมัติสำหรับการประกอบชิ้นส่วนรถยนต์]

 

แรงงานทั่วไป (Physical Labor)

 

ถ้าพูดถึงคำว่าระบบจักรกลอัตโนมัติ (Automation) ทุกคนอาจจะนึกถึงระบบการประกอบรถยนต์ในโรงงานใหญ่ๆ ที่ใช้แขนกลในการประกอบชิ้นส่วนของรถยนต์เข้าด้วยกัน และคุณอาจจะคิดว่าแขนกลเหล่านั้นเป็นแค่หุ่นยนต์โง่ๆที่ไม่รู้จักว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไรและทำเป็นเฉพาะงานที่มันถูกออกแบบมาให้ทำเท่านั้น และในทางปฏิบัติ ระบบจักรกลอัตโนมัติยังไม่สามารถเข้ามาแทนที่มนุษย์ได้ 100% ซึ่งราคาเป็นเหตุปัจจัยสำคัญในเรื่องนี้ แต่ที่กล่าวมานั้นคือข้อจำกัดของระบบจักรกลอุตโนมัติรุ่นเก่า มาดูระบบจักรกลอัตโนมัติในยุคใหม่กันบ้าง นี่คือ “แบ็กซ์สเตอร์” (Baxter) หุ่นยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทำงานทุกประเภทที่ระยะแขนของมันสามารถเอื้อมถึงได้ ซึ่งแตกต่างกับระบบจักรกลอัตโนมัติในยุคก่อนที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในการควบคุมการปฏิบัติงานและราคาเป็นหลักล้านดอลลาร์สหรัฐ แบกซ์เตอร์สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่รอบตัวของมันได้ และไม่เพียงคุณสามารถสั่งการมันได้โดยการเพียงแค่ทำให้มันดูเท่านั้น ราคาของมันยังต่ำกว่าค่าจ้างเฉลี่ยต่อหัวต่อปีของแรงงาน (ในสหรัฐ) อีกด้่วย

 

hnna-04

[ภาพ: แบ็กซ์สเตอร์กับงานพับผ้า]

 

แบ็กซ์สเตอร์เป็นตัวอย่างของสิ่งที่เรียกว่าหุ่นยนต์เพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไป (General purpose robot) ซึ่งคำว่าวัตถุประสงค์ทั่วไปนั้นเป็นสิ่งที่กินวงกว้างทีเดียว อย่างเช่นในที่ผ่านมา คอมพิวเตอร์ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของสิ่งที่เริ่มต้นจากการเป็นสินค้าที่เฉพาะทางและมีราคาสูงมากๆ แต่เมื่อคอมพิวเตอร์ถูกสร้างเพื่อ ”การใช้งานทั่วไป” และมีราคาที่ถูกลง มันก็ได้กลายเป็นหัวใจหรือแกนสำคัญในแทบจะทุกๆอุตสาหกรรม มันถูกใช้ในวัตุประสงค์ที่แตกต่างกันแต่ทั้งหมดนั้นล้วนอยู่ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ และสามารถทำได้เพียงแค่โดยการลงโปรแกรมให้มัน ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณเงินทอนในร้านสะดวกซื้อ ระบบการจองตั๋วเครื่องบิน เล่นเกม ฯลฯ และความต้องการในตลาดที่สูงขึ้นของคอมพิวเตอร์ก็กลายมาเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาของมันลดลงในทุกๆปี

 

hnna-05

[ภาพ: แบ็กซ์สเตอร์มีเซนเซอร์จับสิ่งรอบตัว ทำให้เด็กๆอยู่ในบริเวณได้โดยไม่เป็นอันตราย]

 

แบ็กซ์สเตอร์เองก็เป็นเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ในยุค 1980 ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่เป็นที่นิยมในตอนนี้ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติสำคัญที่จะมาถึง ถึงแม้ว่ามันจะทำงานได้ช้า แต่ต้นทุนค่าไฟต่อชั่วโมงเพียงหลักเพนนี ก็ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับต้นทุนแรงงานขั้นต่ำ เรียกว่ามีความเร็วเพียง 1 ใน 10 ของแรงงานคน แต่ในด้านต้นทุนนั้นต่างกันเป็นร้อยเท่าทีเดียว ถึงแม้ว่าแบ็กซ์เสตอร์จะยังไม่ฉลาดพอที่จะทำแทนที่มนุษย์ในทุกๆอย่าง แต่มันก็มีความสามารถที่จะมาแทนที่แรงงานที่ต้องการทักษะน้อย (low skill jobs) อย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ถึงกระนั้นในทุกวันนี้ หุ่นยนต์ที่มีความฉลาดไม่เท่าแบ็กซ์เสตอร์ก็ได้มาแทนที่แรงงานส่วนใหญ่ในซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆในสหรัฐฯมาแล้วไม่น้อยทีเดียว จากเดิมที่มีพนักงานแคชเชียร์ 30 คน กลายมาเป็นพนักงาน 1 คน กับตู้แคชเชียร์อัตโนมัติ 30 เครื่อง และอาจจะอีกไม่นาน ที่เหล่าบาริสต้านักชงกาแฟจากทั่วโลก อาจจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ชงกาแฟสดแบบอัตโนมัติ ที่เชื่อมต่อกันกับเครื่องอื่นๆและสามารถจดจำได้ว่ากาแฟที่คุณชอบนั้นมีรสชาตแบบไหน สำหรับบางคนแล้วการได้ดื่มกาแฟที่ชงโดยบาริสต้าคนโปรดอาจจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วอาจจะไม่ พวกเขาเพียงแค่ต้องการกาแฟสดสักแก้วเท่านั้น

 

hnna-06

[ภาพ: เครื่องทำกาแฟอัตโนมัติ]

 

เราอาจจะคิดว่าการปฏิวัติทางเทคโนโลนีนั้นเป็นเรื่องที่ไกลตัวและมีราคาแพง แต่การปฏิวัติที่แท้จริงได้เริ่มขึ้นแล้วในช่วงระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่เทคโนโลยีเหล่านี้เริ่มถูกพัฒนาให้เร็วขึ้นและราคาถูกลง อย่างที่เป็นมาแล้วในยุคของคอมพิวเตอร์ และจะเป็นเช่นเดียวกันเมื่อสมองจักรกลสามารถทำงานได้เกินขีดจำกัดและไว้ใจได้มากกว่าการทำงานของสมองมนุษย์

 

hnna-07

[ภาพ: เปรียบเทียบจำนวนผู้ใช้อุปกรณ์สมาร์ตโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึง 10 ปี]

 

เปรียบเทียบกับการใช้ม้าเป็นพาหนะ กับรถยนต์ (Luddite Hourse & Automotives)

 

hnna-08

 

ถึงแม้ว่าการเดินทางด้วยรถยนต์จะมาแทนที่การเดินทางโดยใช้ม้าในยุค 1900 แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้งานของม้าหมดไป กลับกลายเป็นว่างานที่ยากและทรหดอย่างเช่นวิ่งข้ามประเทศต่างหากที่ถูกแทนที่ แต่งานประเภทขี่ม้าชมเมืองก็ยังมีอยู่ทั่วไป และมีมากกว่าที่ผ่านมาด้วยซ้ำ แต่มันก็เป็นเพียงช่วงแรกๆเท่านั้น กล่าวคือ จำนวนประชากรของม้าเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดในปี 1915 ก็คือเพียง 15 ปีนับจากการเริ่มใช้รถยนต์ และหลังจากนั้นมาก็มีแนวโน้มที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง นั่นหมายความว่า การใช้รถยนต์นั้นเป็นผลทำให้ความต้องการในตลาดของการใช้ม้าลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ และสิ่งนี้ก็จะเกิดขึ้นกับมนุษย์อย่างไม่ต่างกัน เมื่อสมองกลอัตโนมัติเข้ามาแทนที่โดยสามารถทำในสิ่งที่เป็นข้อจำกัดของสมองของมนุษย์เอง

การแทนที่ของสมองจักรกลนี้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นในทันทีและทุกที่ แต่มันจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้และเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วมาก สิ่งเหล่านี้จะเป็นปัญหากับมนุษย์เองถ้าเราไม่เตรียมตัวให้พร้อม และดูเหมือนว่าเราจะไม่ค่อยพร้อมซะด้วยสิ!! เราอาจจะมองดูหุ่นยนต์ในทุกวันนี้แล้วคิดว่าไม่มีทางซะหรอกที่หุ่นยนต์พวกนี้จะมาทำหน้าที่แทนพวกเราได้ แต่อย่าลืมว่าเทคโนโลยีต่างๆนั้นมีอัตราการพัฒนาที่รวดเร็วและก้าวกระโดดกว่าการพัฒนาทางพันธุกรรมอย่างเทียบกันไม่ได้่เลยทีเดียว

 

hnna-09

 

อุตสาหกรรมยานยนต์ (Automobiles)

 

รถยนต์นั้นนอกจากจะเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของการเดินทางด้วยม้าแล้ว ยังทำให้เราได้เห็นอีกด้วยว่ารูปร่างหน้าตาของอนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร

 

hnna-10

 

รถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้เองโดยอัตโนมัตินั้นไม่ใช่เรื่องในอนาคตอีกต่อไป มันถูกสร้างขึ้นแล้ว และใช้งานได้ดีอีกด้วย โดยได้มีการทดลองขับมาแล้วเป็นระยะทางหลายหมื่นไมล์ ในบริเวณเมืองแคลิฟอร์เนียและรอบๆบริเวณชายฝั่ง เป็นการขับเคลื่อนอัตโนมัติล้วนๆโดยที่ไม่มีการแทรกแทรงหรือบังคับโดยมนุษย์เลย

คำถามไม่ใช่ว่ามันจะมาแทนที่รถยนต์หรือไม่ แต่คำถามที่แท้จริงคือมันจะมาถึงเร็วแค่ไหนมากกว่า เพราะมันไม่จำเป็นต้องทำงานได้สมบูรณ์แบบ เพียงแต่ขับรถให้ได้ดีกว่ามนุษย์ก็เพียงพอแล้ว พูดถึงอัตราการเสียชีวิตจากอุบติเหตุบนท้องถนนเฉลี่ย 40,000 รายต่อปีเฉพาะในสหรัฐฯ ถือว่าไม่ใช่ตัวเลขที่น้อยเลย ยิ่งพูดถึงการที่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนเองนั้น ไม่มีวันที่จะกระพริบตา ไม่พิมพ์มือถือขณะขับ ไม่หลับใน และก็จะไม่ทำอะไรโง่ๆบนท้องถนนด้วยแล้ว ก็ถือว่ามันสามารถทำงานได้ดีกว่ามนุษย์อยู่มากเลยทีเดียว

 

hnna-11

 

ถ้าพูดถึงรถยนต์ที่ขับเคลื่องเองได้ในแง่ของการใช้งานพื้นฐานแล้ว การมองเฉพาะรูปลักษณ์และการใช้งานแบบทั่วไปบนท้องถนนเพียงเท่านั้นอาจจะเป็นการมองที่ผิวเผินเกินไป เพราะฟังก์ชันพื้นฐานของสิ่งนี้แท้จริงแล้วคือการขนส่งวัตถุจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ในขณะที่รถยนต์ปกติทำการขนส่งคนจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง รถยนต์ที่ขับเคลื่อนเองได้ที่มีขนาดเล็กกว่านั้นยังสามารถทำการเคลื่อนย้ายของที่อยู่ภายในโกดัง ส่วนรถขนาดใหญ่ก็สามารถใช้เคลื่อนย้ายสิ่งของหนักๆเช่นในเหมืองแร่ได้ ซึ่งแค่พูดถึงแรงงานที่อยู่ในสายงานของการขนส่งในสหรัฐก็มีจำนวนถึง 3 ล้านคนแล้ว โดยรวมทั่วโลกอาจจะมีถึง 70 ล้านคนเป็นอย่างน้อยที่จะได้รับผลกระทบ ถ้ารถยนต์ขับเคลื่อนได้เอง (Autos) ถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง ประโยคสุดฮิตก็คือ สหภาพแรงงานคงจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริงที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เมื่อใดที่แรงงานต่อสู้กับเทคโนโลยีที่จะมาแทนที่งานของพวกเขานั้น แรงงานเป็นฝ่ายแพ้เสมอ และเศรษฐกิจก็เป็นฝ่ายที่ชนะเสมอเช่นกัน (Workers always lose and economics always win)

ในความเป็นจริงทุกวันนี้ก็มีกระแสที่เริ่มนำรถยนต์ที่ขับเคลื่อนเองได้มาใช้แล้วในหลายอุตสาหกรรม โดยปกติแล้วแรงงานคนนั้นมีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของต้นทุนทั้งหมดในอุตสาหกรรมขนส่ง นั่นนับรวมแค่ในส่วนของเงินเดือนเท่านั้น ยังไม่นับถึงความเสียหายที่เกิดจากความผิดพลาดในการปฏิบัติงาน หรือแม้แต่อุบัติเหตุต่างๆซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นเช่นกัน

การใช้งานรถยนต์ที่ขับเคลื่อนเองได้เป็นสัญญาณเริ่มต้นสังคมที่มนุษย์ถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ และในอุตสาหกรรมอื่นก็จะเป็นเช่นเดียวกัน เพียงแต่รถยนต์นั้นเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด

 

รูปร่างหน้าตาแห่งอนาคต (The Shape of Things to Come)

 

hnna-12

 

บ็อทสำหรับงานระดับกลาง (Intellectual Labor and White collar worker)

 

เมื่อกล่าวถึงหุ่นยนต์แบ็กซ์เสตอร์และรถยนต์ที่ขับเคลื่อนเองได้ เราอาจจะคิดว่ายังไงซะหุ่ยนยต์พวกนั้นก็มาแทนที่ในหน้าที่ที่เราไม่ต้องการให้คนทำอยู่แล้ว แรงงานเหล่านั้นจะได้ไปพัฒนาตนเองเพื่อเพิ่มศักยภาพ (อย่างที่เป็นมา) โดยอาจจะมองข้ามปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการผลักดันให้คนจำนวนกว่าร้อยล้านเข้าสู่ระบบการศึกษาไปก่อน แรงงานที่มีทักษะระดับกลางที่อยู่ในกลุ่มที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน ก็อาจได้รับผลกระทบนี้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากซอฟต์แวร์สมัยใหม่จะทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพกว่าการคีย์ข้อมูลและตรวจสอบโดยมนุษย์หลายเท่านัก และยังมีต้นทุนทีน้อยกว่าอีกด้วย นั่นยิ่งทำให้แรงจูงในในการใช้ระบบอัตโนมัติเข้าทดแทนพนักงานระดับกลางมีมากกว่าในระดับล่างเสียอีก และนั่นก็เป็นหน้าที่ของเหล่าวิศกรระบบอัตโนมัติ (Automation Engineers) นั่นเอง

 

hnna-13

[ภาพ: วิศวกรเขียนซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์]

 

หน้าที่หลักของวิศวกรเหล่านี้คือออกแบบซอฟต์แวร์ หรือบ็อท (Bot) ที่จะมาทำหน้าที่แทนมนุษย์ โดยที่เหนือกว่านั้นคือพวกเขาใช้วิธีสร้างบ็อทที่สามารถเรียนรู้ได้เอง มันจึงสามารถมีองค์ความรู้ได้เกินขีดจำกัดของผู้สร้า่งที่จะสามารถป้อนเข้าไปได้ พูดง่ายๆคือเราสามารถใส่วิธีการแก้ปัญหาทั้งหมดเข้าไปในบ็อทแล้วให้มันเป็นผู้เลือกใช้วิธีการในการแก้ปัญหาแต่ละชนิดด้วยตัวเองตามแต่ละสถานการณ์ รวมถึงหาข้อมูลเพิ่มเติมเองได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นคอมพิวเตอร์ในตลาดหุ้นทุกวันนี้เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีการควบคุมโดยมนุษย์เลย มันเป็นการที่คอมพิวเตอร์สื่อสารกันเองเกี่ยวกับข้อมูลการซื้อขายและยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบการซื้อขายหรือตัดสินใจเองได้อีกด้วย อีกตัวอย่างที่สำคัญคือในทุกวันนี้ บทความ และข่าวสาร ในบางหนังสือพิมพ์ก็ถูกเขียนขึ้นด้วยบ็อท ความจริงแล้วมีบริษัทที่ทำการออกแบบหรือเรียกว่าสอนให้บ็อทเขียนข่าวต่างๆบทความ หรือแม้กระทั่งรายงานประจำไตรมาสของบางบริษัทก็ถูกจัดทำขึ้นโดยบ็อทเช่นกัน

การทำงานของบ็อทนี้สามารถครอบคลุมทั้งงานเอกสาร (Paperwork) การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ (Decision making) และงานเขียน (Writing) นั่นหมายถึงความต้องการแรงงานในสายงานเหล่านี้มาถึงช่วงขาลงด้วยนั่นเอง แต่ก็แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกสายงานจะถูกแย่งงานโดยบ็อทพวกนั้น หรือว่าไม่จริง!??

 

บ็อทระดับมืออาชีพสำหรับงานเฉพาะทาง (Professional Bots)

 

ถ้าพูดถึงทนายความ คุณอาจจะนึกถึงเกี่ยวกับเรื่องการว่าความ แต่โดยรวมแล้วก็คือการคัดลอกเอกสารและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆในนั้น รวมถึงการค้นหาสิ่งผิดปกติจากกองเอกสารเป็นตั้งๆ ฟังดูเหมือนเป็นงานที่เหมาะกับบ็อทเลยใช่มั๊ยล่ะ ที่จริงแล้วการทำสำนวนหรือการใต่สวนในบางบริษัทที่ให้บริการด้านงานกฎหมายบางแห่งก็ไม่ได้ใช้มนุษย์ทำงานเหล่านี้แล้ว นั่นเป็นเพราะบ็อทสามารถค้นหาผ่านข้อมูลอีเมล์และเอกสารข้อความเป็นล้านๆในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ในขณะที่ถ้าใช้คนทำจะใช้เวลาถึงหลายสัปดาห์ นั่นถือว่าเหนือกว่าประสิทธิภาพในการทำงานของมนุษย์ไม่เพียงแต่ในด้านราคาต้นทุนและเวลาแล้ว ที่สำคัญยังเหนือกว่าในด้านความแม่นยำอีกด้วย บ็อทไม่มีวันที่จะง่วงนอนไม่ว่าจะอ่านข้อมูลมากแค่ไหนก็ตาม

 

hnna-14

[วัตสันในการแข่งขันตอบคำถามในรายการเจ็พเพอร์ดี (Jeopardy) แถมยังชนะขาดลอยด้วย]

 

แต่นั่นเป็นเพียงแค่เรื่องราวผิวเผินเท่านั้น บริษัท IBM ซึ่งเป็นผู้นำในด้านคอมพิวเตอร์ก็ได้สร้างบ็อทของตัวเองขึ้นมาเช่นกัน มันชื่อว่า “วัตสัน” (Watson) และมันก็ได้ออกทีวีด้วย โดยในรายการตอบคำถามทางทีวีที่ฉายในสหรัฐ Jeopardy ได้มีการนำเอาวัตสันเข้าร่วมแข่งขันตอบคำถามในรายการ โดยมันเป็นผู้ชนะอีกด้วย แต่นั่นเป็นเพียงด้านที่สนุกสนานของมันเท่านั้น งานประจำของวัตสันคือการเป็นแพทย์ที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งสามารถเข้าใจสิ่งที่ผู้ป่วยพูดและตอบสนองด้วยการวินิจฉัยที่แม่นยำ โดยให้คำปรึกษาและควบคุมการรักษามะเร็งอยู่ที่ศูนย์รักษาโรคมะเร็งสโลนเคทเตอร์ริง (Slone Kettering Cancer Center)

 

hnna-15

 

คล้ายในเรื่องรถยนต์อัตโนมัติ ที่พวกมันไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ เพียงแค่ทำงานได้ผิดพลาดน้อยกว่ามนุษย์ก็พอแล้ว เช่นเดียวกันในกรณีแพทย์บ็อท แพทย์ที่เป็นมนุษย์นั้นก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบเช่นกัน โดยสาเหตุหนึ่งอาจมาจากการวินิจฉัยโรคที่ผิดพลาด อย่างไรก็ตามการจะมีความเข้าใจถึงประวัติยาของผู้ป่วยแต่ละคน รวมถึงความซับซ้อนขององค์ประกอบเคมีของยาต่างๆด้วยแล้ว ถึงว่าเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าการรับรู้ของคนๆเดียวที่จะทำได้ ในขณะที่แพทย์หนึ่งคนจะสามารถวินิจฉัยจากประสบการณ์เท่าที่ตัวเองมีเท่านั้น บ็อทจะสามารถค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลของแพทย์บ็อทอื่นๆทุกตัวและสามารถทำการวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่างานของแพทย์จะหมดไป แต่เมื่อใดที่แพทย์บ็อทได้เข้ามาอยู่ใกล้ตัวผู้ป่วยมากขึ้นเช่นในโทรศัพท์มือถือ เมื่อนั้นความต้องการแพทย์ทั่วไปก็จะลดลงตามมาเช่นกัน

 

hnna-16

[ภาพ: แขนกลที่ปฏิบัติการในห้องทดลองเวชภัณฑ์]

 

มาถึงจุดนี้เรียกได้ว่าแรงงานในทุกระดับ (แรงงานระดับล่าง พนักงานในสำนักงาน และอาชีพเฉพาะทาง) ต่างได้รับผลกระทบโดยถ้วนหน้า จากการมีขึ้นของระบบอัตโนมัติ แต่อาจไม่ใช่กับกลุ่มงานบางพวกที่มีความคิดสร้างสรรค์เป็นพิเศษ (Special creative snowflakes) แต่รู้อะไรมั๊ย คนเหล่านั้นจะไม่พิเศษอีกต่อไปเมื่อเจอกับระบบต่อไปนี้

 

บ็อทสำหรับงานสร้างสรรค์ (Creative Bots)

 

hnna-17

 

เมื่อพูดถึงความคิดสร้างสรรค์ หลายคนอาจรู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นเวทย์มนต์บางอย่าง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย ถึงแม้ว่าสมองของมนุษย์จะนับว่าเป็นเครื่องจักรที่มีความซับซ้อนอย่างมาก (complicated machine) อาจเป็นไปได้ว่าเป็นสิ่งที่ซับซ้อนที่สุดในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ก็เป็นได้ แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดยั้งความพยายามของมนุษย์ที่จะทำการจำลอง (simulate) การทำงานของสมอง

อย่างเช่นที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อการเข้ามาของ “กล้ามเนื้อจักรกล” ทำให้มนุษย์สามารถเข้าสู่ยุคที่ใช้ความคิดมากขึ้น “สมองจักรกล” ก็จะทำให้มนุษย์เข้าสู่ยุคความคิดสร้างสรรค์ในทำนองเดียวกัน

 

hnna-18

 

ถึงแม้ว่าจะเรามีความเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์เชิงศิลปะของมนุษย์นั่นเป็นเหมือนกันเวทย์มนต์ แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามองข้ามการถกเถียงในเรื่องนั้นไป ระบบเศรษฐกิจส่วนใหญ่ก็ไม่อาจพึ่งพาเพียงแค่งานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะและความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น ที่จริงแล้ว กลุ่มคนที่ทำงานในสายงานที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์นั้นนับได้เป็นสัดส่วนที่น้อยมากๆเมื่อเทียบกับแรงงานทั้งหมดในระบบ ผนวกกับการที่สายงานสร้างสรรค์นี้มีความเกี่ยวพันกับเรื่องของความนิยมด้วย นั่นยิ่งทำให้สัดส่วนของงานยิ่งน้อยลงไปอีกเมื่อมองในภาพรวม

 

hnna-19

 

กล่าวถึงตัวอย่างของบ็อทสำหรับงานสร้างสรรค์ มีบ็อทที่สามารถแต่งเพลงใหม่ๆได้อย่างไม่จำกัด ได้ตลอดทั้งวัน และยังฟรีอีกด้วย เธอมีชื่อว่า เอมิลี ฮาเวล (Emily Howel)  และจากการให้ผู้ทดลองฟังแล้วพบว่าไม่สามารถแยกความแตกต่างหว่างเพลงที่แต่งโดยเอมิลี และเพลงที่แต่งโดยคนจริงๆ

ถ้าพูดถึงความคิดสร้างสรรค์สังเคราะห์ที่มีความรวดเร็วอย่างน่าประหลาด (Artificial creativity getting weird fast) หลายคนอาจจะนึกภาพตามไม่ค่อยออก แต่อย่างไรก็ตาม มันก็หนึ่งเป็นกลุ่มงานอัตโนมัติที่กำลังถูกพัฒนาขึ้นอยู่ในปัจจุบันนี้ เหมือนอย่างในสมัยก่อน มนุษย์เราเคยมีความเชื่อว่าการเล่นหมากรุกนั้นเป็นทักษะที่สร้างสรรค์ของมนุษย์เท่านั้นที่ปัญญาประดิษฐ์ไม่สามารถทำได้ จนกระทั่งตำแหน่งแชมป์หมากรุกถูกชิงไปโดยคอมพิวเตอร์ เรื่องราวในทำนองนี้ก็จะเกิดขึ้นกับทักษะด้านต่างๆของมนุษย์อย่างเลี่ยงไม่ได้ในท้ายที่สุด

 

hnna-20

 

บทสรุป (Conclusion)

 

hnna-21

 

ที่กล่าวมาทั้งหมดอาจจะมากเกินกว่าที่คุณจะรับได้ และไม่แปลกที่หลายๆคนอาจจะมีความเห็นแย้ง หรืออยากจะปฏิเสธแนวความคิดพวกนี้เต็มที อย่างไรก็ตาม มันคงจะง่ายที่จะเป็นคนเยาะเย้ยการคาดการณ์ในอนาคตที่ออกจะดูงี่เง่าหรือดูเป็นไปไม่ได้นั้น ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่นั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่สำคัญที่จะเรียนรู้ด้วยว่า เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ และพวกหุ่นยนต์ต่างๆอยู่ที่นี่แล้วตอนนี้ (The robots are right now) ทุกวันนี้ทั่วทั้งโลกมีหุ่นยนต์ที่ออกทำงานโดยอัตโนมัติทั้งในโรงงาน โกดัง และในแล็บต่างๆ เป็นจำนวนมากอย่างเหลือเชื่อ เราได้ผ่านการปฏิวัติทางเศรษฐกิจมาแล้ว แต่การปฏิวัติทางหุ่นยนต์นั่นจะแตกต่างจากการปฏิวัติครั้งที่ผ่านมา การเลิกใช้ม้าเพื่อการเดินทาง นั่นเป็นเพราะข้อจำกัดทางกายภาพของมันนั่นทำให้มันขาดประสิทธิภาพในการทำงานหรือด้อยลงไป แต่มันก็ยังเหลืองานอยู๋บ้างให้ม้าเหล่านั้นได้ทำเพื่อเลี้ยงชีพ แต่กลับกัน มนุษย์เสียเองที่อาจตกอยู่ในที่นั่งที่ม้าเคยอยู่ คือด้อยศักยภาพ (เมื่อถูกเทียบกับเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าและยิ่งกว่าคือมันเกิดมาเพื่อสิ่งนั้น) แต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลย

 

hnna-22

 

และถ้าคุณคิดว่าท้ายที่สุดแล้วก็จะมีตำแหน่งงานที่เกิดขึ้นใหม่ๆและทำให้ทุกคนไม่ตกงานแล้วล่ะก็ ยังมีอีกประเด็นที่ต้องพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

hnna-23

 

ในบรรดาตำแหน่งงานที่มีอยู่ในข้อมูลสถิติของสหรัฐฯ ในจำนวนเป็นร้อยๆตำแหน่งงานนั้น งานใหม่นับเป็นสัดส่วนที่น้อยมากอย่างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อเรียงลำดับตามจำนวนประชากรในแต่ละสายงานแล้ว พบว่าอันดับต้นๆยังเป็นแรงงานที่ทำงานในอุตสาหกรรมการขนส่ง ตามด้วยตำแหน่งงานที่มีอยู่แล้วเป็นร้อยปี

ซึ่ีงเกือบทัั้งหมดสามารถแทนที่ได้ด้วยงานระบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังพบว่าตำแหน่งงานที่ถือว่าเป็นงานใหม่จริงๆ นั้นถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 33 และถ้าเทียบจากสถิติการตกงานถึง 25% ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองด้วยแล้วละก็ ทั้ง 32 อันดับที่อยู่ก่อนหน้างานที่นับว่าเป็นงานใหม่นั้น นับเป็น 45% ของแรงงานทั้งหมด นั่นหมายความว่าถ้าระบบอัตโนมัติถูกนำมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ คนกว่าครึ่งของประชากรอาจจะต้องตกงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีต่างๆมีความหลากหลายและก้าวกระโดดอย่างมาก งานที่เกิดขึ้นใหม่ๆอาจไม่สัมพันธ์กับจำนวนคนที่ต้องตกงาน

 

บทความนี้ไม่ได้ต้องการจะบอกว่าการใช้หุ่นยนต์นั้นไม่ดี และยังยืนยันด้วยว่ามันเป็นสถานการณ์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะมันเป็นเครื่องมือที่สามารถสร้างผลผลิตได้มากและใช้ต้นทุนในด้านต่างๆที่น้อยกว่าเดิม สิ่งที่เราควรจะคำนึงถึงก็คือ จะทำอย่างไรเมื่อถึงเวลานั้น เมื่องานส่วนใหญ่ ไม่ต้องการคนอีกต่อไป

 

บรรณานุกรม

Humans Need Not ApplyCGP Grey

 

## Robots, Etc:

 

Terex Port automation: http://www.terex.com/port-solutions/e…

 

Command | Cat MieStar System.:http://www.catminestarsystem.com/capa…

 

Bosch Automotive Technology: http://www.bosch-automotivetechnology…

 

Atlas Update: https://www.youtube.com/watch?v=SD6Ok…

 

Kiva Systems: http://www.kivasystems.com

 

PhantomX running Phoenix code: https://www.youtube.com/watch?v=rAeQn…

 

iRobot, Do You: https://www.youtube.com/watch?v=da-5U…

 

New pharmacy robot at QEHB: https://www.youtube.com/watch?v=_Ql1Z…

 

Briggo Coffee Experience: http://vimeo.com/77993254

 

John Deere Autosteer ITEC Pro 2010. In use while cultivating:https://www.youtube.com/watch?v=VAPfI…

 

The Duel: Timo Boll vs. KUKA Robot:https://www.youtube.com/watch?v=tIIJM…

 

Baxter with the Power of Intera 3: https://www.youtube.com/watch?v=DKR_p…

 

Baxter Research Robot SDK 1.0: https://www.youtube.com/watch?v=wgQLz…

 

Baxter the Bartender: https://www.youtube.com/watch?v=AeTs9…

 

Online Cash Registers Touch-Screen EPOS System Demonstration:https://www.youtube.com/watch?v=3yA22…

 

Self-Service Check in: https://www.youtube.com/watch?v=OafuI…

 

Robot to play Flappy Bird: https://www.youtube.com/watch?v=kHkMa…

 

e-david from University of Konstanz, Germany:https://vimeo.com/68859229

 

Sedasys: http://www.sedasys.com/

 

Empty Car Convoy: http://www.youtube.com/watch?v=EPTIXl…

 

Clever robots for crops: http://www.crops-robots.eu/index.php?…

 

Autonomously folding a pile of 5 previously-unseen towels:https://www.youtube.com/watch?v=gy5g3…

 

LS3 Follow Tight: https://www.youtube.com/watch?v=hNUeS…

 

Robotic Handling material: https://www.youtube.com/watch?v=pT3Xo…

 

Caterpillar automation project:http://www.catminestarsystem.com/arti…

 

Universal Robots has reinvented industrial robotics:https://www.youtube.com/watch?v=UQj-1…

 

Introducing WildCat: https://www.youtube.com/watch?v=wE3fm…

 

The Human Brain Project – Video Overview:https://www.youtube.com/watch?v=JqMpG…

 

This Robot Is Changing How We Cure Diseases:https://www.youtube.com/watch?v=ra0e9…

 

Jeopardy! – Watson Game 2: https://www.youtube.com/watch?v=kDA-7…

 

What Will You Do With Watson?: https://www.youtube.com/watch?v=Y_cqB…

 

## Other Credits

 

Mandelbrot set: https://www.youtube.com/watch?v=NGMRB…

 

Moore’s law graph: http://en.wikipedia.org/wiki/File:PPT…

 

Apple II 1977: https://www.youtube.com/watch?v=CxJwy…

 

Beer Robot Fail m2803: https://www.youtube.com/watch?v=N4Lb_…

 

All Wales Ambulance Promotional Video:https://www.youtube.com/watch?v=658ai…

 

Clyde Robinson: https://www.flickr.com/photos/crobj/4…

 

Time lapse Painting – Monster Spa:https://www.youtube.com/watch?v=ED14i…

 

Leave a Reply